Monday, June 11, 2012

Dreamcatcher



ทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่ไม่ได้เลี้ยงวิญญาณที่มีในตัวเอง
คำถามนี้มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่งานที่ทำเริ่มมีความจำเจ เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จในงานที่เรามองว่าน่าจะเป็นเราบ้างนะ อีกครั้งก็หลังจากทำงานปีที่ 3 ปีที่ 5 และใกล้เข้าปีที่ 7

เคยถามตัวเองบ่อยครั้งว่าเราทำงานทุกอย่างได้เลยเหรอ ใครหยิบยื่นงานส่วนไหนให้เราก็ทำอย่างเต็มที่ งานที่คิดว่าไม่อยากทำไม่ชอบ แต่พอต้องมารับผิดชอบเราก็ทำได้ไม่เลวเลยนะ นึกชมตัวเองอยู่บ่อยๆ หรืออาจจะชอบความท้าทาย อยากพิสูจน์ตัวเองให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานเห็นหรือเพราะอยากให้คนชื่นชอบก็บอกไม่ถูก น่าจะหมายรวมทั้งหมดมากน้อยแล้วแต่สถานการณ์

ครั้งแรกที่ต้องทำงานเพราะไม่อยากอยู่กับน้องชายที่กำลังซนและถูกรังแก พอมีโอกาสได้แวะเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ก็ไม่ยอมกลับบ้านเฉยๆ เด็กอายุ 5 ขวบ ที่อยู่บ้านญาติที่ต้องรับผิดชอบตัวเองตั้งแต่เริ่มเรียนประถมหนึ่ง และยังถูกฝึกให้ช่วยเหลืองานบ้านก่อนและหลังเลิกเรียนก็ไม่ง่ายเลย ยิ่งช่วงระหว่างการเป็นวัยรุ่น เวลาเช้านี่ช่างเป็นอะไรที่วุ่นวายเหมือนอะไรๆ ก็ไม่ค่อยพร้อม ไม่เป็นใจให้ไปเรียนเช้าเลย และความกดดันครั้งสำคัญก็ตอนคุณพ่อเสีย รับผิดชอบกิจการแทน ดูแลพนักงานอีกกว่า 40 น้องๆ อีก3 คนที่กำลังอยู่ในวัยเรียน การเสียโอกาสในการเรียนระดับปริญญาตรี งานตรงหน้าก็ไม่เคยมีความรู้เลย ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์แต่ก็ผ่านวันเวลามาได้ด้วยดี ถึงจะไม่ราบรื่น ไม่มีคู่คิด แต่ต้องขอบคุณเพื่อนอีกคนที่มาศึกษางานที่บ้าน เพื่อนสมัยเรียนที่ไม่ค่อยสนิทกันแต่ดูจะเข้าขากันได้ไม่เลว สองคนรวมกันใช้เวลาว่างหลังเลิกงานทำของส่งร้านกิ๊ปช้อป เงินเล็กน้อยแต่ทำไมรู้สึกดีจัง

การเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่มีวุฒิการศึกษาสูง ก็ทำให้เป็นคนเก็บตัวเพราะไม่มีอะไรจะอวดใครได้ เพื่อนที่เคยลอกข้อสอบ ลอกการบ้านกำลังจะเรียนต่อปริญญาโท เริ่มฮึดอีกครั้งว่าเราจะอยู่แบบไม่มีวุฒิการศึกษาสูงๆ ไม่ได้แล้ว มหาวิทยาลัยไม่ดังก็จะเรียน ว่าแต่จะไหวเหรอต้องทำงานด้วยเรียนไปด้วย อยากตามเพื่อนๆ ให้ทันเลยลงเรียน 8 วิชาต่อเทอม ใช้เวลา 1 เดือนหยุดงานเพื่อสอบ ส่วนใหญ่ก็มีเวลาเตรียมตัวอยู่ 3 วัน ก่อนสอบ 3 ปีหลังจากนั้นก็จบ ขณะที่ยืนดูประกาศผลสอบอยู่คนเดียว ความดีใจมันมากมาย อยากร้องก็ไม่อาจมีคนมองว่าบ้า อยากกอดใครก็ไม่มีเลยสักคนอยู่แถวๆ นั้น มันตื้นตันมาก มากมายจริงๆ

การค้นหาตัวเองที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ มาจากสิ่งที่อยากจะลองและโอกาสที่มากองอยู่ตรงหน้าทั้งโดยบังเอิญและไขว่คว้ามาแบบทันทีทันควัน แต่การค้นพบตัวเองมักเป็นตอนที่มีคนชม ถึงไม่แน่ใจว่าคำชมนั้น 100 เปอร์เซ็นจากใจหรือให้กำลังใจเราเท่่านั้น ปัจจุบันก็ยังค้นหาไปอีกหวังว่าจะเจอที่ถูกจริตตัวเอง ด้วยการลองทำ ลองดู หลายครั้งในชีวิตการค้นหาที่ผ่านๆ มามักจะเกิดจากการจนตรอก และครั้งนี้จะจนตรอกจนได้ดีเหมือนครั้งก่อนๆ ไหมนะ ...

2 comments:

  1. อย่างที่หลายๆคนบอก ชีวิตคือการเดินทาง และการเดินทางก็มักจะมีอุปสรรคให้เราต้องฝ่าฟัน มีปัญหาให้เราต้องคิดต้องแก้ไขอยู่ตลอด เราหยุดพักให้หายเหนื่อยแต่เราหยุดเดินไม่ได้ เดินต่อไปนะค่ะ เพื่อนรุ่นน้องคนนี้จะคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ ค่ะ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณค่ะ พยายามจะจัดการกับอุปสรรคครั้งนี้เหมือนเคยค่ะแต่คราวนี้เดินช้าหน่อยก็เท่านั้นเองค่ะ คิดว่าไม่มีเวลาให้หลงทางกว่านี้แล้ว หาอะไรที่เป็นเราและใช่ก็ไม่ง่ายเลย

    ReplyDelete